วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์

nitasrattanakosin / Rattanakosin Exhibition Hall

วันเสาร์ ที่ 1 ธันวาคม 2555
ได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์" แต่จริงๆเค้าไม่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นพิพิธภัณฑ์
แต่เป็นที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมในยุครัตนโกสินทร์
(ก็พิพิธภัณฑ์นั่นแหละเนอะ)

จัดตั้งขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยว(และประชาชน) ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว
บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ก่อนที่จะไปเที่ยวสถานที่จริง
"เสมือนหนึ่งประตูสู่กรุงรัตนโกสินทร์"


นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินกลาง อยู่ข้างๆวัดราชนัดดาราม(โลหะปราสาท)
อังคาร - ศุกร์ 11:00 - 20:00
เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00 - 20:00
เปิดเข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ20นาที --- เข้าชมรอบสุดท้าย 18:00

รอบเวลาเข้าชม มีให้เลือกชมแบบ  2 ช.ม. และ  4 ช.ม.(9 ห้องจัดแสดง)
(ในเว็บมีแบบ 1:45 ช.ม.ด้วย แต่จำไม่ได้เจ้าหน้าที่บอกรึปล่าว จำได้แค่ 2 - 4 ช.ม.)
แบ่งออกเป็นสองเส้นทาง -- เส้นทางที่ 1 (7 ห้อง) / เส้นทางที่ 2 (2ห้อง)

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็กไม่เกิน120 ซ.ม./ นร. นศ./ พระภิกษุ สามเณร /ผู้สูงอายุ 60ปีขึ้นไป /ผู้พิการ = เข้าชมฟรี




 ขอชมแบบครบจุใจ เลือกชมแบบ 4 ช.ม.(14:00 - 18:00)  เข้าชม 9 ห้องจัดแสดง


ด้านหน้ามีนิทรรศการหมุนเวียน วันที่ไปจัดแสดงเรื่อง "สายน้ำแห่งความเพียร"
เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ และพระราชกรณียกิจของในหลวง
รูปนี้เป็นกล้องแบบที่พระองค์ใช้ และแผนที่ที่มีลายพระหัตถ์



ถึงเวลาเข้าชม จะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นในการเข้าชม
และมีเจ้าหน้าที่พาเข้าชมในทุกห้องจัดแสดง 


ส่วนแรก(ไม่มีรูปค่ะ ลืมถ่ายT_T) พาผ่านอุโมงค์เวลา เรียนรู้เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในยุคต่างๆ
(เป็นภาพพร้อมข้อมูลให้อ่าน)

จากนั้นเข้าสู่ ห้องที่ 1 ดื่มด่ำย่านชุมชน
ชมวิถีทำกิน และความเป็นอยู่ของ 12 ชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์
ชื่นชมผลงานจากชุมชนต่างๆ ที่สืบทอดกันมายาวนาน 


ห้องที่ 2 รัตนโกสินทร์เรืองโรจน์
รับชมสื่อผสม 4 มิติ ย้อนกลับเมื่อครั้งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ชมความเรืองโรจน์ มั่นคงจนถึงปัจจุบัน
ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ห้ามถ่ายภาพทุกชนิด(แนะนำให้เก็บกล้อง เพราะมีละอองน้ำพ่นออกมาด้วย)

ห้องที่ 3 เกียรติยศแผ่นดินสยาม
ชมความงาม และความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม จากพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว



และผ่านประตูเล็กที่ต้องข้ามให้พ้นธรณีประตู เพื่อเข้าชมพระราชฐานชั้นใน
โดยมี "จ่าโขลน" หรือผู้รักษาการณ์ฝ่ายใน เปรียบได้กับตำรวจหญิง ดูแลเรื่องกฏระเบียบของฝ่ายใน


   สาวชาววังกับงานดูแลเครื่องแต่งกาย

  เครื่องอัดผ้าโบราณ...การอบร่ำให้ผ้าหอม
 

   อาหารชาววัง ที่ต้องแกะสลักผักและผลไม้ให้สวยงาม
  
   มาลัยดอกไม้


                          แอบดูสาวชาววังซ้อมรำละคร(ดูหลอนๆนิดนึง ^_^")

ห้องที่ 4 เรืองนามมหรสพศิลป์
                             ชมวีดิทัศน์ มหรสพสมโภช ในมุมมอง 360 องศา


มารู้จักกับมหรสพ และการละเล่นนานาชนิดที่ให้ความบันเทิงแกคนไทยมาช้านาน
ทั้งโขน ละคร รำ และหุ่นต่างๆ

   ลองเชิดหุ่นกระบอก

                          หุ่นละคร

ห้องที่ 5 เยี่ยมยลถิ่นกรุง
เพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะรัตนโกสินทร์
เจ้าหน้าที่จะให้ทุกคนที่เข้าชม ถ้ายภาพใบหน้า แล้วไปทำเป็นตัวละครในอนิเมชั่นท่องเที่ยวทั่วกรุง
ต้องคอยจ้องดีๆ ว่าหน้าเราจะได้เป็นตัวละครตัวไหน ต้องคอยยกกล้องพร้อมถ่าย เพราะเร็วมาก ^_^

จากนั้นแวะพักผ่อนที่ รัตนโกสินทร์สกายวิว ชั้น 4
ชมความงามของทัศนียภาพโดยรอบ เช่น ภูเขาทอง โลหะปราสาท ลานพลับพลามหาเจษฏาบดินทร์
พร้อมพักดื่มกาแฟ True Coffee (ไม่ฟรีนะคะ จ่ายเงินตามอัธยาศัย ^_^)

มาต่อที่ห้องที่ 6 ลือระบิลพระราชพิธี ...ชื่นชมพระราชพิธียิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาแต่โบราณกาล
ซาบซึ้งกับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
ที่ทรงฟื้นฟู พระราชพิธีสำคัญขึ้นหลายพระราชพิธี
ชมความงามของเรือพระที่นั่ง ในรูปแบบเมจิกวิชั่น 



ห้องที่ 7 สง่าศรีสถาปัตยกรรม
ภาคภูมิใจกับสถาปัตยกรรม วัด วัง และบ้านในกรุงรัตนโกสินทร์


                                                  ชมบ้านเรือนยุครัตนโกสินทร์

และแอบดูเจ้าของบ้านนั่งล้อมวงกินข้าว

ห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายของเส้นทางที่ 1 
เจ้าหน้าที่จะให้เวลาพักเข้าห้องน้ำ(ห้องนี้มีเวลาถ่ายรูปเยอะสุดเลยถ้าไม่เข้าห้องน้ำ)
จากนั้นก็เข้าสู่เส้นทางที่ 2 ( 2ห้อง) ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ห้องที่ 8 เรืองรุ่งวิถีไทย
เป็นห้องเรียนรู้วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยตั้งแต่เกิด - ตาย
เข้ามาถึงจะพบกับแบบจำลองบ้านเรือน วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา

จากนั้นเราจะไป"นั้่งเรือ" และ "รถราง" (เรือวิ่งบนราง 5555 ...ทำได้ดีมากๆ ขอชื่นชม )
ชมวิถีชีวิตริมน้ำ และชมควาเป็นอยู่ของผู้คนบนถนนเจริญกรุง

เมื่อขึ้นเรือแล้วระวังเมาเรือ เพราะมีเรือโคลงเล็กน้อบให้สมจริง
นั่งเรือฟังชาวบ้านริมน้ำร้องเพลงฉ่อย ชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง

พอพ้นจากคลอง เรือก็กลายร่างเป็นรถราง
ให้เราได้ชมวิถีชีวิตควาเป็นอยู่ของผู้คนบนถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของไทย
ผ่านการพูดคุยของสองสาว(โบราณ) ที่ยืนคุยกันอยู่ที่ริมหน้าต่าง
(ภาพผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา เป็นแบบเมจิกวิชั่นดูแล้วหลอนๆเล็กน้อย แต่ก็สวยแปลกตาดี)

เมื่อออกจากรถราง เจ้าหน้าที่จะพาไปสัมผัสการละเล่นที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน นั่นคือ"รำวง"
ทุกคนจะล้อมวงกันรำวง วันที่มีคนเข้าชมเยอะ ก็เลยรำกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศมันพาไป^_^

พอรำวงแล้ว ก็เข้าสู่ส่วนที่กล้องถ่ายรูปต้องทำงานหนักที่สุดในห้องเรืองรุ่งวิถีไทย
เพราะส่วนนี้จำลองร้านรวง กิจการต่างๆที่รุ่งเรืองเคยในอดีต(จนถึงปัจจุบัน)





ธนาคารแห่งแรกของไทย
ผ่านหลุมหลบภัย

                          แล้วย้อนสู่ยุคโก๋หลังวังบูรพา(เตรียมกล้องของท่านให้พร้อม)
                               สามารถฉายรูปลงปกนิตยสารโบราณเก็บเป็นภาพที่ระลึกได้


                                                      ร้านกาแฟหลังวัง
  
                                                          สภากาแฟ
จากนั้นเข้าไปชมวีดิทัศน์เกี่ยวกับ...น่าจะความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ที่ไม่แน่ใจเพราะจำไม่ค่อยได้
ดูแล้วมันงงๆ จอก็เป็นเหลี่ยมมุมมากมายแบบแปลกๆ สงสัยตาไม่ถึง ไม่ค่อยเข้าใจศิลปะ ^_^"
แถมสื่อออกมาเป็นเพลง...น่าจะฮิปฮอปหรือแร็พ ไม่แน่ใจค่ะ ...จากที่ชมมาไม่ชอบส่วนนี้ที่สุด


เข้าสู่ห้องสุดท้าย ห้องที่ 9 ดวงใจปวงประชา
ถ่ายทอดเรื่องราวพระราชกรณียกิจนานัปการของพระมหากษัตริย์ในบรมราชจักรีวงศ์ตลอด 9 รัชกาล
การนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ 
ฝ่ามรสุมจากมหาอำนาจ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชน

           เงินถุงแดงที่สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสำรองเอาไว้ใช้ยามบ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ

ส่วนท้ายสุดของห้องนี้ เข้าชมภาพยนต์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ชื่นชมในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อประชาชนชาวไทย
ชมแล้วซาบซึ้งมากๆ ต้องกลั้นน้ำตาไว้ แต่เห็นคนข้างหน้านั่งเช็ดน้ำตาตลอด
ดูจบแล้วซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงจริงๆ

                    จบ 4 ชั่งโมงด้วยความสุข ...ออกมามืดแล้ว เริ่มประดับไฟวันพ่อ

ประทับใจที่นี่มากๆค่ะ อยากให้คนไทยหาโอกาสมาชม "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์"
และอยากให้ประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์ดีๆแบบนี้อีกหลายๆแห่ง เพื่อเป็นที่ท่องเที่ยวพร้อมเรียนรู้ 
พิพิธภัณฑ์ที่ดีต้อง "สนุกและได้ความรู้"